ธรรมะสวัสดีมายังพุทธศาสนิกชนทุกท่าน เริ่มต้นขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๕ ชาวประชาต่างหวั่นไหวกับการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ สายพันธ์ใหม่ที่มีชื่อว่า “โอมิครอน” ซึ่งก็มีข่าวแพร่ระบาดออกมาตั้งแต่ในช่วงเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสต่อเนื่องถึงวันส่งท้ายปีเก่า_ต้อนรับปีใหม่ ทำให้วัดไทยกรุงวอชิงตัน,ดี.ซี. ต้องประกาศงดการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และทำบุญขึ้นปีใหม่ตามประเพณีที่เคยทำมา อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของพระธรรมทูตทุกรูปที่อยู่ในวัดไทยฯดีซี.อันมีพระเดชพระคุณหลวงตาชีเป็นประธาน
ในส่วนของการสวดมนต์ข้ามปีได้จัดพิธีผ่านสื่อสารออนไลน์ พระสงฆ์ทุกรูปได้ลงทำวัตรสวดมนต์เย็นและเจริญพระพุทธมนต์ทำน้ำมนต์ไว้แจกจ่ายเป็นกำลังใจแก่ญาติโยมที่มาทำบุญถวายภัตตาหารเช้า_เพล ตามโอกาสสมควร
หลังจากขึ้นปีใหม่ได้ประมาณอาทิตย์กว่า ๆก็เป็นวันเดินทางกลับประเทศไทยของท่านพระครูปริยัติธรรมาภิราม(ดร.พระมหาทวีพงษ์)นวันที่ ๙ มกราคม พระสงฆ์และญาติโยมต่างก็เสียดายและคิดถึงท่าน ก็ขอให้ท่านกลับไปบ้านเกิดด้วยความสุขและสุขภาพที่แข็งแรงเป็นที่รัก_เคารพของศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ตลอดไป
วันที่ ๒๒ มกราคม พระมหาเถระชาวเวียตนาม พระอาจารย์เซนติช นัท ฮันห์ ได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบในวัย ๙๕ ปีเป็นวันที่ควรรำลึกถึงความสูญเสียพระมหาเถระผู้รัตตัญญู(มีความรู้มาก) ที่ชาวพุทธ(และไม่ใช่พุทธ)ทั่วโลกให้ความเคารพนับถือในปฏิปทา แนวความคิดทางสร้างสันติภาพภายใน (Peace every steps) จิตใจของท่าน และสอนชาวโลกให้ใช้สติในชีวิตประจำวันได้อย่างน่าอัศจรรย์ และสุดท้ายเมื่อท่านละสังขารไปแล้ว ท่านได้เคยสั่งไว้ก่อนหน้านั้นว่า “ อย่าสร้างเจดีย์ให้ฉัน อย่าเอาเถ้ากระดูกไว้ในโกศ อย่าขังฉันและจำกัดสิ่งที่ฉันเป็น” แต่ถ้าจำเป็นต้องสร้าง ท่านขอให้เขียนป้าย ๓ อันไว้ที่เจดีย์ ป้ายแรกเขียนว่า “ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่” ป้ายที่ ๒ “ฉันไม่ได้อยู่ข้างนอกเช่นกัน” ป้ายที่ ๓ “ถ้าจะอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง ขอให้ฉันอยู่ในลมหายใจแห่งการตื่นรู้ และย่างก้าวอันสงบของเธอ” นี่คือวิถึชีวิตแห่งปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาที่ชาวโลกต้องจดจำไปชั่วนิรันดร์กาล
วันที่ ๓๐ มกราคม ประชุมคณะกรรมการบริหารวัดไทยกรุงวอชิงตัน,ดี.ซี. เพื่อความเป็นเอกภาพและสร้างความมั่